- เผยแพร่เมื่อ: วันจันทร์, 13 มกราคม 2563 19:42
ต้อเนื้อ มีลักษณะเป็นแผ่นเนื้อรูปสามเหลี่ยม งอกจากตาขาวลามเข้าไปในตาดำ มักพบบริเวณหัวตามากกว่าหางตา ต้อเนื้อจะค่อย ๆ โต ลุกลามอย่างช้า ๆ เข้าไปในตาดำ ถ้าเป็นมากจะลามเข้าไปจนถึงกลางตาดำปิดรูม่านตา ซึ่งจะปิดบังการมองเห็นทำให้ตามัวได้ เนื้อเยื่อดังกล่าวไม่ใช่มะเร็ง ไม่ใช่เนื้องอก แต่เป็นลักษณะของความเสื่อมของเยื่อบุตา ซึ่งเกิดจากแสงอัลตราไวโอเลตเป็นหลักและไม่เป็นอันตราย แต่อย่างใดกับดวงตา แต่จะก่อความรำคาญเวลาอักเสบ บวมแดง จะรู้สึกเคืองตา ถ้าเป็นมากก็จะมีปัญหาเรื่องสายตาเอียงได้ เพราะจะไปกดอยู่ที่กระจกตา เป็นโรคกลุ่มเดียวกันกับต้อลม แต่ไม่มีการยื่นเข้าไปในส่วนของกระจกตา (ตาดำ)
สาเหตุของโรคต้อเนื้อ
- ต้อเนื้อ เกิดเนื่องมาจากแสงอัลตราไวโอเลตทำให้เยื่อบุตาบริเวณนั้นเสื่อมลง โรคนี้จึงมักเกิดกับผู้ที่ทำงานกลางแจ้ง ดังนั้นแพทย์จึงแนะนำให้ผู้ป่วยโรคนี้ใส่แว่นกันแดดไว้เสมอในเวลาออกกลางแจ้ง
- โรคนี้จะเจอมากในประเทศที่อยู่ในแถบเส้นศูนย์สูตร (แสงอาทิตย์จะมีความร้อนมากกว่าประเทศที่อยู่ห่างเส้นศูนย์สูตร)
อาการของโรคต้อเนื้อ
ผู้ป่วยเป็นโรคต้อเนื้อ จะมีอาการเคืองตาแสบตา น้ำตาไหล ตาแดง คันตา ถ้าเป็นน้อยจะไม่ทำให้ตามัวเพราะไม่ได้กดกระจกตามาก แต่ถ้าเป็นมาก เช่นในกรณีที่ต้อเนื้อลุกลามเข้ามาถึงกลางตาดำจะทำให้ตามัวลง
การรักษาและการป้องกันโรคต้อเนื้อ
- ใส่แว่นกันแดด, สวมหมวก, กางร่ม ในเวลาที่ออกกลางแจ้ง
- ไม่จำเป็นต้องรักษาในรายที่มีอาการไม่มาก
- ใช้ยาหยอดตาในผู้ที่มีอาการเคืองตา ตาแดง น้ำตาไหล แต่ยาหยอดตาไม่สามารถทำให้ต้อเนื้อหายไปได้
- ต้อเนื้อที่เป็นน้อยไม่จำเป็นต้องผ่าตัดออกเพราะไม่อันตรายต่อตา
- การผ่าตัดจะทำในผู้ป่วยต้อเนื้อที่มีอาการมาก หรือต้อเนื้อที่ลุกลามเข้าไปบนกระจกตาดำมากจนทำให้ตามัวลง
การผ่าตัดต้อเนื้อ
การผ่าตัดลอกต้อเนื้อควรทำผ่านกล้องผ่าตัดโดยจักษุแพทย์ เพราะหลังจากลอกต้อเนื้อไปแล้วในบางรายอาจกลับเป็นใหม่ได้ ซึ่งมักเป็นมากกว่าเดิม ต้อเนื้อที่ขึ้นใหม่นี้จะแดงหนาและอักเสบมากกว่าเดิม และการรักษาโดยการลอกใหม่อีกครั้งจะยากกว่าการลอกครั้งแรกด้วย ดังนั้นการดูแลหลังผ่าตัด เป็นเรื่องที่สำคัญมาก
การลอกต้อเนื้อมีหลายวิธีดังนี้
วิธีที่ 1 ลอกต้อเนื้อ (Bare sclera) โดยการตัดเนื้อออกจากเยื่อตาขาวและลอกต้อส่วนที่ติดอยู่บนตาดำออก วิธีนี้มีอัตราการกลับเป็นใหม่สูงมาก เหมาะกับผู้ป่วยที่มีอายุมาก ๆ หรือผู้ป่วยที่ต้อเนื้อไม่มีการอักเสบเลย
วิธีที่ 2 ลอกต้อเนื้อและใช้เยื่อบุตามาแปะ (Conjunctival graft) ทำตามวิธีที่ 1 ร่วมกับการตัดเอาเยื่อตาขาวจากด้านบนของลูกตา มาแปะลงบริเวณตาขาวที่ได้รับการลอกต้อเนื้อออกไปแล้ว และเย็บด้วยไหมละลาย วิธีนี้เป็นวิธีที่ดีมากในการป้องกันการกลับเป็นใหม่
การเตรียมตัวก่อนผ่าตัดต้อเนื้อ
- ต้องหยุดยาละลายลิ่มเลือด 7 วัน ก่อนเข้ารับการผ่าตัด
- ล้างหน้า สระผมเช้าวันเข้ารับการผ่าตัด เนื่องจากห้ามโดนน้ำ 7 วันหลังผ่าตัด
- ไม่ควรแต่งหน้าหรือทาแป้งในเช้าวันผ่าตัด
- การทำผ่าตัดลอกต้อเนื้อ ทำโดยการให้ยาชาเฉพาะที่ โดยก่อนทำการผ่าตัดผู้ป่วยจะได้รับการหยอดยาชาและยาปฏิชีวนะก่อนเข้าห้องผ่าตัด เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
- ถ้าลอกเพียงอย่างเดียว จะใช้เวลาเพียง 10-15 นาที กรณีที่ใช้เยื่อบุตาแปะด้วย ใช้เวลาในการทำประมาณ 30 นาที (ต่อหัว)
การดูแลหลังการผ่าตัดต้อเนื้อ
- ห้ามโดนน้ำ 1 สัปดาห์ ไม่ต้องใช้ที่ครอบตา
- ปกติแพทย์จะให้ปิดตาแน่น ประมาณ 1 - 2 วัน เพื่อให้แผลที่กระจกตาสมานดี ช่วงแรกหากมีอาการปวดตามาก สามารถกินยาแก้ปวดได้ เช่น Paracetamol
- หลังจากแผลที่กระจกตาปิดแล้ว จะให้เริ่มหยอดยาปฏิชีวนะผสม Steroid เช่น Tobradex และอาจจะให้ใช้น้ำตาเทียมร่วมด้วยเพื่อให้แผลหายเร็วขึ้น
- ข้อควรระวังในการใช้ยาหยอดตา
: หยอดตาและหยุดยาตามคำแนะนำของแพทย์หรือพยาบาลโดยเคร่งครัด มิฉะนั้นอาจเป็นต้อหินโดยไม่รู้ตัวและห้ามนำตัวอย่างยาไปซื้อมาใช้อีก โดย
ไม่ได้อยู่ในความดูแลของแพทย์
- ไม่นัดตัดไหม เพราะเป็นไหมละลาย ในกรณีที่มีการแปะเยื่อบุตาและเย็บแผล
- มาตรวจตาหลังลอกต้อเนื้อตามนัดเพื่อแพทย์ตรวจดูว่าแผลหายดี สมควรหยุดยาหยอดได้หรือไม่เพื่อป้องก้นการเกิดโรคแทรกซ้อน
· สิ่งสำคัญที่สุดคือ การหลีกเลี่ยง ฝุ่น ลม แดด ควัน ไม่ให้เข้าตา โดยการสวมแว่นตากันแดดทุกครั้งเพื่อป้องกันสิ่งกระตุ้นดังกล่าว อันเป็นสาเหตุให้เกิดต้อเนื้อได้อีก