- รายละเอียด
- ฮิต: 99
รู้จักโรคเรื้อน
โรคเรื้อนเป็นโรคติดต่อเรื้อรังชนิดหนึ่ง เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่เรียกว่าไมโคแบคทีเรียม เลแปร ซึ่งเมื่อเชื้อเข้าสู่ร่างกายแล้วมักจะเข้าไปอาศัยอยู่ในบริเวณใต้ผิวหนังและเส้นประสาทส่วนปลาย จากนั้นประมาณ 3 - 5 ปีผู้ที่ไม่มีความต้านทานต่อเชื้อโรคเรื้อนก็จะมีอาการแสดงทางผิวหนัง เช่น เป็นวงด่าง สีจางหรือสีเข้มกว่าผิวหนังปกติ หากไม่ได้รับการรักษาอาการจะลุกลามเป็นผื่นหรือตุ่มกระจายอยู่ทั่วตัว หลายคนเรียกชื่อโรคเรื้อนต่างกันไป เช่น ขี้ทูด กุฏฐัง ไทกอ หูหนาตาเล่อ โรคพยาธิเนื้อตาย เป็นต้น
โรคเรื้อนติดต่อกันได้โดยการสัมผัสคลุกคลีและอยู่ใกล้ชิดกับผู้ป่วยระยะติดต่อเป็นเวลานาน ๆ เชื้อโรคเรื้อนมีขนาดเล็กมากไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า อาศัยอยู่ใต้ผิวหนัง เส้นประสาทส่วนปลาย และเยื่อบุทางเดินหายใจส่วนบนของผู้ป่วยระยะติดต่อ เมื่อเชื้อโรคเรื้อนเข้าสู่ร่างกายจะใช้เวลาฟักตัวประมาณ 3 - 5 ปีจึงจะปรากฏอาการในผู้ที่ไม่มีภูมิต้านทานต่อเชื้อโรคเรื้อน คนส่วนใหญ่จะมีภูมิต้านทานต่อโรคเรื้อน เด็กมีโอกาสติดโรคมากกว่าผู้ใหญ่เนื่องจากมีภูมิต้านทานโรคน้อยกว่า ผู้สัมผัสโรคร่วมบ้านหรือประชาชนทั่วไปแม้จะได้รับเชื้อโรคเรื้อนโอกาสที่จะป่วยเป็นโรคมีเพียงประมาณร้อยละ 5 เท่านั้น
ลักษณะอาการของโรคเรื้อนที่สังเกตได้ง่ายคือ ระยะแรก มักมีอาการทางผิวหนังเป็นวงด่าง มีอาการชา ผิวหนังบริเวณวงด่างมักแห้งและขนร่วง อาการระยะแรกนี้หากปล่อยทิ้งไว้อาจจะเกิดการกำเริบเป็นมากกลายเป็นโรคเรื้อนระยะติดต่อ มีลักษณะผิวหนังเป็นผื่นนูนแดงหนา หรือเป็นตุ่มกระจายทั่วตัว และสามารถแพร่เชื้อติดต่อได้ ผู้ป่วยที่ไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้องอาจมีการทำลายเส้นประสาททำให้เกิดอาการฝ่ามือ ฝ่าเท้าชา กล้ามเนื้อลีบ อ่อนกำลัง นิ้วมือ นิ้วเท้างอ ข้อมือตก เดินเท้าตก ปากเบี้ยว หลับตาไม่สนิท ถ้าไม่ได้รับการรักษาต่อเนื่องก็จะพิการ นิ้วมือ นิ้วเท้ากุดด้วน หรือถึงกับตาบอดได้
ปัจจุบันมียาสมัยใหม่ที่สามารถรักษาโรคเรื้อนให้หายขาดได้ภายใน 6 เดือนถึง 2 ปี โดยผู้ป่วยที่มีเชื้อน้อยหรือมีอาการระยะเริ่มแรกของโรคจะใช้เวลารักษาเพียง 6 เดือน ส่วนผู้ป่วยที่เป็นชนิดเชื้อมากหรือมีอาการเป็นเวลานานแล้วจะใช้เวลา 2 ปี ระหว่างรักษาผู้ป่วยสามารถอยู่ร่วมกับครอบครัวได้อย่างปลอดภัยเนื่องจากยาที่ใช้รักษาโรคเรื้อนเป็นยาที่มีประสิทธิภาพสูง สามารถฆ่าเชื้อโรคเรื้อนให้หายได้ภายใน 1 สัปดาห์ แต่ผู้ป่วยยังคงต้องกินยาต่อไปจนกว่าแพทย์จะสั่งให้หยุดการรักษา
หลายคนเชื่อว่าโรคเรื้อนเป็นโรคทางกรรมพันธุ์และเป็นโรคที่รักษาไม่หาย ซึ่งเป็นความเชื่อที่ผิดเพี้ยนไปเนื่องจากโรคเรื้อนเป็นโรคติดต่อชนิดหนึ่งที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ติดต่อกันได้โดยการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยเป็นเวลานาน ๆ คนส่วนใหญ่ประมาณร้อยละ 95 จะมีภูมิต้านทานต่อโรคเรื้อน แม้จะอยู่ใกล้ชิดกับผู้ป่วยก็จะไม่ติดโรค โดยเฉพาะผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาแล้วหรือกำลังอยู่ระหว่างการรักษาจะไม่แพร่เชื้อให้ผู้อื่น เพราะเชื้อโรคเรื้อนจะถูกทำลายด้วยยาที่ใช้รักษาจนไม่สามารถก่อให้เกิดโรคได้อีก
เมื่อพวกเรารู้จักโรคเรื้อนกันมากขึ้น จึงควรให้ความเห็นใจ ให้กำลังใจ และคอยเตือนให้ผู้ป่วยโรคเรื้อนกินยาอย่างสม่ำเสมอ กินอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อให้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงและมีภูมิต้านทานโรค ส่วนผู้ที่อยู่ร่วมบ้านกับผู้ป่วยทุกคนควรตรวจสุขภาพร่างกายปีละ 1 ครั้ง เพื่อเฝ้าระวังการเกิดโรคค่ะ
ด้วยความปรารถนาดีจาก .... กลุ่มงานสุขศึกษา โรงพยาบาลลำปาง
E - mail address : This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.